วันที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๑ เจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต ผู้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร กรรมการที่ปรึกษา นักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ (ธรรมยุต) เป็นประธานในพิธีปฐมนิเทศพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ) ที่พระอุโบสถวัดพระศรีมหาธาตุ บาเขน กรุงเทพมหานคร
พระศรีวินยาภรณ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายการศึกษา ปฏิบัติหน้าที่รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยขอประทานกราบเรียน ได้ถวายรายงานความว่า “เกล้าฯ พระศรีวินยาภรณ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายการศึกษา ปฏิบัติหน้าที่รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ในนามของคณะกรรมการ เจ้าหน้าที่ สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ (ธรรมยุต) คณะสงฆ์วัดพระศรีมหาธาตุ พระภิกษุผู้เข้ารับการฝึกอบรมฯ และผู้เข้าร่วมพิธีทุกท่าน รู้สึกเป็นพระคุณอย่างสูงยิ่ง ที่ได้รับความเมตตาจากเจ้าประคุณฯ มาเป็นประธาน ในพิธีเปิดการฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ (ธรรมยุต) รุ่นที่ ๒๔ ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๑ ในครั้งนี้
โอกาสนี้ เกล้าฯ ขอประทานกราบเรียนความเป็นมาของการฝึกอบรมโดยสังเขป ดังนี้ สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ (ธรรมยุต) ในความอุปถัมภ์ของมหาเถรสมาคม ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดให้มีการฝึกอบรมพระภิกษุเป็นพระธรรมทูตไปต่างประเทศขึ้น ตั้งแต่พุทธศักราช ๒๕๓๘ เป็นต้นมา โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้

๑. เพื่อเตรียมพระธรรมทูตที่มีคุณภาพ มีศีลาจารวัตรอันดีงาม มีความรู้ดี
ความสามารถดี เพื่อส่งไปปฏิบัติศาสนกิจประจำวัดไทยในต่างประเทศ
๒. เพื่อฝึกอบรมพระธรรมทูตให้มีความสามัคคี มีความมั่นใจในการปฏิบัติศาสนกิจด้านการเผยแผ่ในต่างประเทศ และให้มีหลักการสอนพุทธธรรมที่สอดคล้องเหมาะสม และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
๓. เพื่อสนองงานด้านการเผยแผ่ของคณะสงฆ์และมหาเถรสมาคม
๔. เพื่อสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาและรักษาศรัทธาของชาวพุทธทั่วโลก
สำหรับหลักสูตรที่ใช้ในการฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ (ธรรมยุต) ในรุ่นที่ ๒๓ พุทธศักราช ๒๕๖๐ นี้ สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ (ธรรมยุต) ได้พัฒนาปรับปรุงหลักสูตรการฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศเดิม เป็นหลักสูตรประกาศนียบัตรพระธรรมทูตไปต่างประเทศ ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ความสามารถและทักษะพื้นฐาน ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติศาสนกิจให้ดียิ่งขึ้น มีอุดมการณ์และอุทิศตนในงานการเผยแผ่ มีความมั่นคงในพระรัตนตรัย มีความเข้าใจ ปฏิบัติได้ และเข้าถึงคุณค่าที่แท้จริงของพุทธธรรม มีความรู้ดี ความสามารถดี และปฏิบัติดี สามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับจากการฝึกอบรม ไปบูรณาการในการปฏิบัติศาสนกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนระยะเวลาในการฝึกอบรม ตั้งแต่วันที่ ๘ มกราคม ถึง ๗ เมษายน รวมทั้งสิ้นเป็นเวลา ๓ เดือน โดยแบ่งการฝึกอบรมออกเป็น ๓ ภาคคือ ภาควิชาการ ภาคจิตภาวนา และภาคศึกษาดูงานและนมัสการ
สังเวชนียสถานในประเทศอินเดีย-เนปาล

ด้านสถานที่พักและสถานที่ฝึกอบรมพระธรรมทูตนั้น ได้รับความอนุเคราะห์จากวัดพระศรีมหาธาตุ กรุงเทพมหานคร เป็นสถานที่ฝึกอบรมภาควิชาการและภาคจิตภาวนา ส่วนภาคศึกษาดูงานและนมัสการสังเวชนียสถานในประเทศอินเดีย-เนปาล มีวัดเนรัญชราวาส วัดป่าพุทธคยาวัดกุสาวดีพุทธวิหาร วัดไทยสิริราชคฤห์ เป็นต้น
สำหรับผู้เข้ารับการฝึกอบรมฯ ในรุ่นที่ ๒๔ นี้ มีจำนวน ๕๒ รูป ประกอบไปด้วยวิทยฐานะ พระปริยัติธรรมแผนกบาลี เปรียญเอก ๑ รูป เปรียญโท ๒ รูป เปรียญตรี ๗ รูป
แผนกธรรม นักธรรมเอก ๔๘ รูป นักธรรมโท ๔ รูป ในจำนวนนี้ มีคุณวุฒิสายสามัญ ระดับปริญาโท ๕ รูป ปริญญาตรี ๒๐ รูป อนุปริญญา ๖ รูป มัธยมศึกษาตอนปลาย ๑๐ รูป มัธยมศึกษาตอนต้น ๖ รูป และประถมศึกษา ๕ รูป
คาดว่าเมื่อผู้เข้ารับการพระธรรมทูตเหล่านี้ผ่านการฝึกอบรม ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรพระธรรมทูตไปต่างประเทศครั้งนี้ จะได้พระธรรมทูตที่มีความรู้ดี ความสามารถดีมีศีลาจารวัตรอันดีงาม และอุทิศตนในการประกาศเผยแผ่หลักธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันจะนำมาซึ่งความเลื่อมใสศรัทธาของพุทธศาสนิกชน และความสงบร่มเย็นต่อมนุษยชาติสืบไป
อนึ่ง ในโอกาสที่เจ้าประคุณฯ ได้เมตตามาเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดการปฐมนิเทศ หรือพิธีปัจฉิมนิเทศการฝึกอบรมพระธรรมทูตในแต่ละครั้งที่ผ่านมา และได้เมตตาประทานโอวาทแนวทางการปฏิบัติศาสนกิจของพระธรรมทูตนั้น สำนักฝึกอบรมฯ ได้ตระหนักถึงสาระสำคัญของโอวาท และได้น้อมนำมาเป็นแนวทางในการดำเนินการฝึกอบรมให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป
บัดนี้ งานทุกส่วนและผู้เกี่ยวข้องทุกท่านพร้อมแล้ว ขอประทานกราบเรียน เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้โปรดเมตตากล่าวเปิดการฝึกอบรมฯ และให้โอวาทเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติ เพื่อความเป็นสิริมงคล แก่คณะกรรมการ เจ้าหน้าที่ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมฯ ตลอดถึงอุบาสก อุบาสิกา ผู้ถวายการอุปถัมภ์ครั้งนี้โดยทั่วกัน

เจ้าประคุณ สมเด็จพระวันรัต ได้ให้โอวาทแก่พระภิกษุผู้เข้ารับการฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศสรุปความว่า “พระเถรานุเถระตลอดจนผู้เข้าร่วมอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศทุกท่าน ผมรู้สึกยินดีที่ได้มาเปิดการฝึกอบรมในครั้งนี้ และขอแสดงความยินกับทุกท่าน ที่ได้มาสมัครเพื่อไปเป็นพระธรรมทูตในต่างประเทศ
ทุกท่านที่มาฝึกอบรมในครั้งนี้เป็นผู้มีความตั้งใจในการเสียสละในประโยชน์ส่วนตนเพื่อบำเพ็ญประโยชน์ส่วนรวม ในการเป็นศาสนทายาทเพื่อประกาศคำสอนของพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นประโยชน์แก่มหาชน ตามพุทธประสงค์ที่พระพุทธเจ้าได้ทรงปฏิบัติเป็นแนวทางให้เราทั้งหลายได้ถือปฏิบัติตาม พระพุทธเจ้านั้นได้ทรงเสียสละความสุขส่วนพระองค์อันเป็นส่วนโลกิยะซึ่งปุถุชนปรารถนาอยากจะมีอยากจะเป็น พระองค์สละประโยชน์ส่วนตนไปบำเพ็ญเพียรเพื่อบรรลุอรหันต์ เพื่อประโยชน์อันแท้จริง เมื่อบรรลุแล้วแทนที่พระองค์จะหยุดพักเสวยวิมุติสุขเพียงลำพัง แต่พระองค์กลับเลือกที่จะประกาศสัจธรรมเพื่อประโยชน์แก่ชนหมู่มาก ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ของพระองค์เองเลย พระองค์ทรงเสียสละตลอดพระชนม์ชีพ

เราท่านทั้งหลายที่มีเจตนาอันบริสุทธิ์เพื่อประกาศคำสอนของพระพุทธเจ้า หน้าที่ชองเราจะต้องตั้งใจฝึกอบรม ข้อสำคัญคือวัตถุประสงค์ที่เราเป็นพระธรรมนั้นเพื่ออะไร เราจะดำเนินการ
ตามวัตถุประสงค์ให้สำเร็จได้อย่างไร วัตถุประสงค์ข้อหนึ่งคือเพื่อฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ
พระพุทธศาสนาจะมั่นคงได้ก็เพราะมีผู้เผยแผ่คำสอน เพื่อเป็นหลักปฏิบัติในชีวิตของคนทุกคน ดังนั้นท่านจะต้องแนะนำหลักคำสอนให้ทุกคนเข้าใจ นำไปปฏิบัติ ก็จะยังความเจริญให้เกิดขึ้นกับทุกคน ผลของการปฏิบัติของทุกคนก็จะย้อนกลับมาเป็นความมั่นคงของพระพุทธศาสนา ท่านจะต้องแสดงความรู้ความสามารถที่ได้รับการฝึกอบรมมานั้นให้ทุกคนเข้าใจ เป็นประโยชน์ของคนทุกคน มิใช่ประโยชน์ของศาสนาอย่างเดียว ทุกท่านจะต้องทำความเข้าใจให้ดี
ผู้ที่จะนำหลักธรรมไปแสดงให้คนอื่นนั้น ผู้แสดงจะต้องเป็นคนที่น่าเชื่อถือ น่านับถือ แม้จะมีความรู้ไม่มากนัก แต่เมื่อพูดอะไรเขาก็ตั้งใจฟัง ในฐานะที่เรายังเป็นปุถุชนมีกิเลส การจะทำให้ทุกคนบริสุทธิ์หมดคงไม่ได้ แต่ทำเท่าที่สามารถจะทำได้ เพียงเท่านี้ก็ใช้ได้แล้ว

ในการทำงานจะต้องมีสติคอยกำกับ ไม่ทำตามอำนาจกิเลส แม้จะมีความรู้ไม่มาก แต่น่าเชื่อถือ น่าเลื่อมใสก็ทำงานได้
การไปนมัสการสังเวชนียสถานเพื่ออะไร เพื่อให้เกิดความสังเวชตนเอง เพื่อดำเนินตามรอยบาทพระศาสดา เพื่อศึกษาปฏิปทาของพระอรหันต์ในอดีต เป็นต้น ในการอบรมนี้ได้รับการอุปถัมภ์สถานที่จากวัดพระศรีมหาธาตุ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย และหน่วยราชการทั้งหลาย ตลอดถึงพระเถรานุเถระที่เสียสละเวลาของตนมาให้การอบรม”
การฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศแบ่งเป็นสามภาคคือภาควิชาการ ฝึกอบรมที่สถาบันฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ) วัดพระศรีมหาธาตุ ภาคสมาธิภาวนา ฝึกอบรมที่วัดเทพพอทักษ์ปุณณาราม อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา และภาคศึกษาดูงานและนมัสการสังเวชนียสถานในอินเดีย-เนปาล ทั้งสามภาคมีกำหนดเวลาสามเดือน
สำนักงานเลขานุการสำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)
รายงาน
๙ มกรคม ๒๕๖๑